“คุณเคยสงสัยบ้างไหมว่าทำไม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของคุณนั้นควรมี Google Maps Platform บนหน้าเว็บไซต์ของคุณ?”

เมื่อจับตามองแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นับว่ามีจำนวนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อาทิเช่น ที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮม มากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ค่อยๆเติบโตในตลาดด้วยราคาที่สูงขึ้น จึงทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่างได้รับผลกำไรมากขึ้นอีกด้วย 

อย่างไรก็ตามบริษัทอสังหาริมทรัพย์ควรให้ความสำคัญกับการสื่อสารระหว่างลูกค้าและผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยการให้ลูกค้าได้รับข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของ โครงการที่อยู่อาศัยของคุณ อย่างง่ายดายทุกที่ ทุกเวลาบนเว็บไซต์ของคุณ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับลูกค้าของคุณ Interactive Google Maps ควรถูกนำมาใช้บนเว็บไซต์ของคุณเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า  ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถนำ Google Maps API มาใช้บนเว็บไซต์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการค้นหารายชื่อสถานที่ของคุณรวมทั้งขอบเขตหรือ บริเวณใกล้เคียงที่พวกเขาต้องการ

5 ฟีเจอร์ จาก Google Maps Platform ที่ให้โซลูชั่นที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

1. Google Maps API 

Maps Embed API ช่วยให้คุณสร้างแผนที่ในแบบ interactive map, dynamic street view, static street view และ panorama บนเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ของคุณ หากคุณต้องการที่จะสร้างแอพลิเคชั่นบนมือถือสำหรับธุรกิจของคุณ Maps API มีให้ใช้บริการสำหรับ Android และ IOS อีกทั้งยังรวมไปถึงอีกแพลตฟอร์มของ JavaScript 

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าของคุณสามารถดูได้ว่าบ้านหรือสถานที่พักอาศัย ถนน ตั้งอยู่ที่ไหน และตรงกับความต้องการที่จะค้นหาของลูกค้าหรือไม่

Google Maps API ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ สะดวกรวดเร็ว บนเว็บไซต์ของคุณ นอกจากนี้ Maps API ช่วยให้ลูกค้าและผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์สามารถเจรจาข้อตกลงทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างง่ายขึ้นด้วยการแสดงผลข้อมูลที่สำคัญๆบนแผนที่

2. Place Details

ลูกค้าของคุณสามารถค้นหาสถานที่ของคุณได้อย่างง่ายดายด้วยชื่อเต็มที่อยู่และรายละเอียดอื่น ๆ ซึ่งประกอบด้วย ความคิดเห็นหรือรีวิว การให้คะแนน (rating) และรายละเอียดการติดต่อมากถึง 150 ล้านแห่ง

3. Current Place

ระบุสถานที่ด้วยสัญญาณเรียลไทม์ เช่น เวลาของวัน หรือที่ตั้งของผู้ใช้งาน

4. Geocoding API

Geocoding API เป็นกระบวนการแปลงที่อยู่เป็นพิกัดทางภูมิศาสตร์ในแง่ของละติจูดและลองจิจูดที่สอดคล้องกับสถานที่ คุณสามารถปักหมุด Place Marker บนแผนที่ได้

นอกจากนี้ยังสามารถใช้กระบวนการกำหนดรหัสพิกัดย้อนกลับ Reverse Geocoding เป็นภาษาที่มนุษย์สามารถอ่านได้ไปยังสถานที่เหล่านั้น รวมทั้งเพิ่มข้อมูลที่เป็นประโยชน์เช่น เขตเวลาทั้งหมดในเวลาเดียวกัน

5. Autocomplete for Addresses and Search Terms

ฟีเจอร์การเติมข้อความอัตโนมัติหรือ Autocomplete ใน Maps JavaScript API ทำให้แอปพลิเคชั่นของคุณสามารถเข้าถึงพฤติกรรมการค้นหาในช่องการค้นหาแผนที่ของ Google Maps โดยเมื่อป้อนที่อยู่ลงบนหน้าเว็ปของคุณ การเติมข้อความอัตโนมัติจะเติมข้อมูลที่เหลือโดยอัตโนมัติ ที่อยู่ในรูปแบบของรายการเลือกแบบเลื่อนลงด้านล่าง

ดังนั้นจึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการเติมข้อความอัตโนมัติเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะสามารถช่วยให้ลูกค้ากรอกแบบฟอร์มที่อยู่และกำจัดข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หากคุณได้ลองใช้ตัวฟีเจอร์นี้ ลูกค้าของคุณนั้นก็จะชื่นชอบเว็บไซต์ของคุณอย่างแน่นอน!

นี่คือข้อคิดเห็นของลูกค้าของบริษัทเเห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา…

“ฉันมีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการช็อปปิ้งและการจัดส่งบนเว็บไซต์นี้เพราะที่อยู่ของฉันนั้นถูกต้อง ดังนั้นมันก็เป็นไปได้ว่าข้อมูลการสั่งซื้อและข้อมูลอื่นๆก็ต้องถูกต้องแม่นยำด้วยเช่นกัน”

“Google Maps Platform ช่วยธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ได้อย่างไรบ้าง?”

Redfin: ช่วยให้คนค้นพบและซื้อบ้านในฝันของพวกเขา

Redfin เป็นบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาฯ ที่ให้บริหารและเป็นตัวแทนขายเต็มรูปแบบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจซึ่งตรงกับภารกิจของบริษัท นอกจากนี้บริษัท Redfin ยังมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือลูกค้าในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกค้าแต่ละคน บริษัท Redfin นั้นได้เปลี่ยนมาใช้ Google Maps Platform จากเมื่อก่อนที่ใช้แผนที่แบบ hand-stitched ด้วยเหตุผลที่ Google Maps นั้นช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นกว่ามาก โดยมีความเร็ว 2.5 วินาทีโดยเฉลี่ย เมื่อดาวน์โหลดหน้าพื้นฐาน และเร็วขึ้น 12.5 วินาที เมื่อโหลดหน้าเว็บ

“ ความเร็วนี้สร้างความแตกต่างอย่างมากเมื่อพูดถึงประสบการณ์ของผู้ใช้” Howell กล่าว “ คุณสมบัติพิเศษที่ Google Maps มีนั้นก็ความสำคัญเช่นกัน เช่นภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูง”

Redfin ยังเน้นไปที่ maps-centric interface ซึ่งเป็นผลทำให้เขาแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ นอกจากนี้พวกเขายังอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขายบ้าน ในการจะหาแหล่งที่อยู่อาศัยเพื่อขายในละแวกใกล้เคียง ด้วยการสร้าง Polygon การปักหมุดบนแผนที่ และค้นหาภายในพื้นที่นั้นๆ การใช้ Google Maps JavaScript API นั้นไว้สร้าง web interface ในขณะที่ Google Maps Android API ไว้สร้างแอพลิเคชั่นบน Android

ด้วย Google Maps Platform นี้  Redfin ได้ปรับปรุงบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนซื้อและขายบ้านได้ง่ายขึ้น ด้วยการเริ่มต้นค้นหาบ้านที่เหมาะสมตามพื้นที่ที่ต้องการและผ่านการเยี่ยมชมบ้าน Open house

Google Maps Platform Results:

• Redfin ได้พัฒนาวิธีที่ง่ายขึ้นสำหรับคนที่จะซื้อและขายบ้าน จากการค้าหาบ้านที่เหมาะสมในบริเวณที่ต้องการเพื่อไปเยี่ยมชม Open house รวมไปถึงการเปรียบเทียบราคาที่แตกต่างกันของบ้าน
• มีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ไม่ซ้ำกันจำนวน  10 ล้านคนต่อเดือน
• สามารถปิดการขายบ้านจำนวน $25 billion ได้ตั้งแต่ทำการเปิดตัว
  
  

"ลูกค้าและตัวแทนของเราไว้วางใจในเทคโนโลยีของเรา ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องสร้างเครื่องมือที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพที่ช่วยปรับปรุงกระบวนการซื้อและขาย  Google Maps Platform ช่วยเราทำสิ่งต่างๆด้วยแผนที่การค้นหาและเครื่องมืออื่น ๆ เช่น การนำทางจราจร 

Map-based search เป็นการค้นหาบนแผนที่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าวิธีการทำงานของธรุกิจอสังหาริมทรัพย์แบบดั้งเดิม "

—Curtis Howell, ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสสำหรับการมีส่วนร่วมของลูกค้า, Redfin